มูแลนด์ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ นครพนม เมืองสวยสงบริมฝั่งโขงที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์อย่างไม่เสื่อมคลาย

 

มูแลนด์ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ นครพนม


นครพนม เมืองสวยสงบริมฝั่งโขงที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์อย่างไม่เสื่อมคลาย

 

     ภาพทิวทัศน์ความงามของผืนฟ้าจรดแผ่นน้ำเส้นแบ่งพรมแดนธรรมชาติมองเห็นทิวเขาสุดสายตา ศูนย์รวมความหลากหลายในวัฒนธรรมที่กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว เมืองที่มีอากาศดีในอันดับต้นๆ ของประเทศ วิถีชีวิตเรียบง่ายสบายๆ แบบสโลว์ไลฟ์...เมืองที่ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่และเต็มไปด้วยความสุขที่สุด การมาได้เที่ยวนครพนมหนึ่งคืนจะทำให้อายุยืนยาวไปอีกหลายปี ภาพผู้คนใช้ชีวิตริมฝั่งโขงในยามเช้าและเย็น ไม่ว่าจะเป็นการเดินออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน เป็นวิถีชีวิตคุ้นตา

    นอกจากเป็นเมืองแห่งธรรมชาติแล้ว นครพนมยังโดดเด่นในเรื่องธรรมมะ เป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมศรัทธาและเลื่อมใสอันได้แก่ พระธาตุพนม พระธาตุที่มีชื่อเสียงและสร้างความเคารพศรัทธาให้กับคนทั่วประเทศ

    และยังเป็นจังหวัดที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสายมูที่มีความศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยมต่อองค์พญานาค ที่นี่มีแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวที่สำคัญที่ผู้คนต่างหลั่งไหลมากราบไหว้สักการะ คือ พญาศรีสัตตนาคราช และ ถ้ำนาคี อันโด่งดัง ณ อุทยานแห่งชาติภูลังกา

  คุณเสาวนีย์ คนกล้า

ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

สำนักงานนครพนม 

     ขอพาทุกท่านสัมผัสเส้นทางท่องเที่ยวสายมูแลนด์ จากเมืองนครพนมมุ่งสู่ถ้ำนาคี ดินแดนแห่งศรัทธา อุทยานแห่งชาติภูลังกา นอกจากหมุดหมายที่ปักไว้ยังปลายทางแล้ว ความสุขระหว่างทางก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เส้นทางสายนี้ยังมีสถานที่ทางศาสนาที่สำคัญไม่ว่าจะเป็น วัดพระบาทเวินปลา...พระธาตุท่าอุเทน...วัดพุทธนิมิตร หนองเทา...วัดประสงค์วนาราม รวมทั้งแหล่งช้อปชิมของดีของท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นอาหารญวน เช่น ต้มเส้น ข้าวเกรียบปากหม้อ ขนมเทียนแก้ว รวมถึงกล้วยกรอบ นาคี – นาคา

 

พระธาตุท่าอุเทน 

พระธาตุประจำคนเกิดวันศุกร์

     พระธาตุท่าอุเทน ประดิษฐานอยู่ภายในวัดพระธาตุท่าอุเทน ใกล้กับที่ว่าการอำเภอท่าอุเทน อยู่ตรงข้ามกับเมืองหินบูรณ์ แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สร้างเมื่อปีพ.ศ. 2455 โดยหลวงปู่สีทัตถ์ สุวณฺณมาโจ เป็นผู้นำในการก่อสร้าง องค์พระธาตุก่ออิฐถือปูนรูปทรงสี่เหลี่ยม จำลองมาจากพระธาตุพนมแต่มีขนาดเล็กและสูงกว่า โดยสูงจากพื้นดินถึงยอด 33 วา ฐานกว้างด้านละ 6 วา 3 ศอก ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุซึ่งอัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า รวมทั้งพระพุทธรูปและของมีค่าต่างๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธาบรรจุถวายไว้

      เมื่อปี พ.ศ. 2540 ซุ้มประตูชั้นล่างขององค์พระธาตุด้านทิศใต้ได้พังทลายลง กรมศิลปากรได้ทำการบูรณะในปี พ.ศ. 2541 และราวปลายปี พ.ศ. 2557 ได้รับการบูรณะอีกครั้งจนแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2558

      องค์พระธาตุแบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นอุโมงค์บรรจุของมีค่าต่างๆ ชั้นที่ 2 สร้างครอบอุโมงค์ ชั้นที่ 3 คือเจดีย์องค์ใหญ่ สูงประมาณ 15 เมตร พระธาตุองค์นี้เป็นปูชนียสถานสำคัญยิ่งองค์หนึ่ง งานนมัสการพระธาตุจะจัดขึ้นในวันขึ้น 13 ค่ำ ถึง แรม 1 ค่ำ เดือน 4 ของทุกปี 

     พระธาตุท่าอุเทนถือเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันศุกร์ เชื่อกันว่าผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์ เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ พระธาตุองค์นี้มีสิ่งที่ตรงกับเทพประจำวันศุกร์คือหันไปทางทิศเหนือของพระธาตุพนม ตรงกับทิศประจำของพระศุกร์ สิ่งของบูชาพระธาตุสำหรับคนเกิดวันศุกร์ ได้แก่ ข้าวตอก น้ำอบ ข้าวเหนียวปิ้ง ดอกไม้สีน้ำเงินหรือฟ้า ธูป 21 ดอก เทียน 2 เล่ม

       อำเภอท่าอุเทน เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม และมีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นผลมาจากความอุดมสมบูรณ์ของพระศุกร์ ที่เกิดจาก “โค" ซึ่งเป็นสัตว์แห่งการเกษตร นอกจากนี้ทิศเหนือยังเป็นทิศประจำของพระโมคคัลลานะ พระอรหันต์ ประจำทิศเหนือ ผู้เปี่ยมด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เป็นที่เลื่อมใสของผู้คนที่ได้พบเห็น
ผู้ใดที่มาเยือนที่แห่งนี้ต่างหลงมนต์เสน่ห์ที่เกิดมาจากความสงบสุขจากแสงแห่งธรรมและความสวยงามจากธรรมชาติที่รายล้อม

     การเดินทางไปพระธาตุท่าอุทนสามารถใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 212 หรือถนนชยางกูร จากอำเภอเมืองจังหวัดนครพนม ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 จากนั้นให้ตรงไปยังอำเภอท่าอุเทน ไม่นานจะเจอกับวัดท่าอุเทนที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง นักท่องเที่ยวสายมูที่จะเดินทางไปถ้ำนาคีสามารถแวะกราบมนัสการพระธาตุท่าอุเทนได้เพราะเป็นเส้นทางผ่าน

ที่ตั้ง : 87หมู่ 5 ถนนศรีเมือง ตำบลท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม 48120

 

วัดพุทธนิมิต หนองเทา ท่าอุเทน 

พระอุโบสถงดงามสุดวิจิตร

     จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้ เป็นสถานที่ที่ร่มรื่น เงียบสงบ เรียบง่ายแต่ซ่อนความงดวาม วิจิตรตระการตา ให้เราได้ตื่นตาตื่นใจกับพระอุโบสถของวัดพุทธนิมิต หนองเทา สถานปฏิบัติธรรมอันเงียบสงบท่ามกลางสวนยางริมแม่น้ำโขงในอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม


     พระอุโบสถก่อสร้างฐานด้วยหินแม่น้ำโขง หลังคามุงด้วยกระเบื้องไม้แท้ ประดับด้วยสัตว์ประจำปีเกิด 12 นักษัตร มีลวดลายปูนปั้นสุดวิจิตรคล้ายวัดทางภาคเหนือออกแบบลวดลายด้วยศิลปะเชียงทองผสมล้านนาลวดลายวิจิตรสวยงาม อลังการ ละเอียดอ่อน รู้สึกเหมือนมีมนต์ขลัง


     เริ่มตั้งแต่บันไดทางขึ้นด้านหน้าที่มีรูปปั้นพญานาคเน้นลวดลายสีสันสวยงาม มีความน่าเกรงขาม ฝั่งด้านข้าง 2 ฝั่ง มีทั้งพญานาคครึ่งคนที่เป็นองค์นาคีนาคา สัตว์ในวรรณคดี สิงห์ทิพ ที่ออกแบบลวดลายมีความอ่อนช้อยงดงามเหมือนมีชีวิต ความโดดเด่นคือลวดลายแกะสลัก ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ที่อยู่รอบอุโบสถ หน้าจั่วภายนอก เป็นการปั้นปูน ประดับตกแต่งด้วยกระจกคล้ายวัดร่องขุ่น

      ภายในอุโบสถประดิษฐาน พระพุทธชินราช พระประธานองค์ใหญ่ ส่วนลวดลายฝาผนังเป็นจิตรกรรมแนวร่วมสมัยสีน้ำสดใสสะท้อนถึงเรื่องราววิถีพื้นถิ่นในอดีต วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต ของคนริมโขง และพุทธประวัติ หลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

       พระสุพิช รตนโชโต เจ้าอาวาสรูปก่อนเป็นผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะ จึงตั้งใจสร้างพระอุโบสถให้มีความงดงาม โดยผสมผสานสถาปัตยกรรมล้านนากับเชียงของแบบหลวงพระบาง และด้วยจิตศรัทธาของลูกศิษย์ ชาวบ้านและชาวพุทธที่มีจิตศรัทธาได้ร่วมกันสร้างอุโบสถหลังนี้จนสำเร็จลุล่วงด้วยดี ในปี พ.ศ. 2557


     แม้ปัจจุบันพระสุพิชได้ลาสิกขาบทไปแล้วแต่พระอุโบสถของวัดพุทธนิมิตก็ยังเป็นสถานที่ที่เหล่าพุทธศาสนิกชนผู้สนใจในงานศิลป์แวะเข้ามาชื่นชมอยู่ไม่ขาด สมดังความตั้งใจที่สร้างขึ้นอยากให้คนเข้าหาวัด

     จากพระอุโบสถเราเดินผ่านความร่มรื่นของบริเวณสถานปฏิบัติธรรมเข้าไปจนถึงริมแม่น้ำโขงจะเห็น หลวงพ่อใหญ่ พุทธมงคลนิมิตรัตนรังศรี พระพุทธรูปองค์ใหญ่หน้าตักประมาณ 10 เมตร สูงเกือบ 20 เมตร องค์ใหญ่สวยงามมาก รายล้อมด้วยพญานาคที่สวยงามเหมือนมีชีวิตจริง มีพระพุทธรูปองค์เล็กๆ อยู่รอบองค์ใหญ่หลายองค์ พระพุทธรูปองค์ใหญ่นั่งหันหน้าไปทางแม่น้ำโขง อีกฟากฝั่งเป็นแผ่นดินสปป.ลาว ชาวบ้านทั้งไทยและลาวนั่งเรือผ่านไปผ่านมาจะเห็นพระองค์ใหญ่นี้เด่นสง่าอยู่บนฝั่ง เป็นความงดงามอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพรอบๆ เหมาะแก่การฝึกจิตปฏิบัติธรรมในลักษณะวัดป่าอย่างแท้จริง

     วัดพุทธนิมิต หนองเทา  วัดสวยงามควรค่าแห่งการมาเที่ยวชม ซึ่งหากใครไปถ้ำนาคีสามารถแวะเที่ยวได้เพราะอยู่ในเส้นทางผ่าน

ที่ตั้ง : หมู่ที่ 7 ตำบลหนองเทา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม

  

วัดสมประสงค์วนาราม บ้านแพง

สักการะพญานาคสีทอง

      วัดแห่งนี้เป็นวัดที่ผู้คนนิยมเดินทางมากราบไหว้ พระธาตุศรีเมืองแพง พระธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและวัตถุมงคลต่างๆ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ครบ 84 พรรษา และ องค์พญาศรีสัตตนาคราช รูปปั้นพญานาคสีเหลืองทองขนาดใหญ่ มีเจ็ดเศียร ชูคอสง่างาม พ่นน้ำ

พระธาตุศรีเมืองแพง

     วัดสมประสงค์วนาราม ตั้งอยู่ตำบลนางัว อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม บริเวณวัดร่มเย็นและเงียบสงบ เดินทางสะดวกอยู่ไม่ไกลจากถ้ำนาคาและถ้ำนาคี ซึ่งนักท่องเที่ยวสายมูต้องไม่พลาดแวะมาสักการะบูชาและขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล

92 หมู่ที่ 9 บ้านทุ่งเจริญ ตำบลนางัว อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม

 

 

วัดพระบาทเวินปลา

รอยพระพุทธบาทกลางแม่น้ำโขง หนึ่งเดียวในโลก

วัดพระบาทเวินปลา

เดิมมีชื่อเรียกว่าวัดโพธิ์ไชย์ ด้วยในอดีตบริเวณที่ตั้งวัดเป็นป่า มีต้นโพธิ์อยู่ 1 ต้น ต่อมาชาวบ้านเผ่าไทยกะเลิงได้มาแผ้วถางเพื่อสร้างวัดโดยตั้งชื่อว่าวัดโพธิ์ไชย์ตามชื่อต้นโพธิ์ที่ปรากฏ บริเวณวัดอยู่ติดกับแม่น้ำโขงห่างจากฝั่งประมาณ100 เมตร ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือมีเนินดินเล็กๆ ที่ชาวบ้านเรียกว่าดอนพระบาท และมีโขดหินโผล่ขึ้นช่วงหน้าแล้งแต่ชาวบ้านไม่รู้ว่าเป็นรอยพระพุทธบาท กระทั่งมีพระธุดงค์เดินทางมาปักกลดใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ 

      ตอนเย็นชาวบ้านพากันหาขันตอกดอกไม้มาฟังเทศน์ หลังเทศน์จบแล้วพระท่านก็ถามว่าไม่เห็นรอยอะไรที่ก้อนหินในน้ำหรือ ชาวบ้านตอบเห็นแต่ไม่รู้ว่าเป็นรอยอะไร พระธุดงค์กล่าวว่าเคยอ่านและศึกษาในตำนานพระอุรังคธาตุระบุว่ามีรอยพระบาทอยู่แถวนี้ ดังนั้นวันรุ่งขึ้นท่านพร้อมด้วยชาวบ้านพากันไปยังโขดหินกลางแม่น้ำโขงก็พบรอยพระพุทธบาทตรงตามตำนานได้กล่าวไว้ ต่อมาได้เรียกชื่อวัดโพธิ์ไชย์เป็นวัดพระบาทเวินปลามาถึงปัจจุบัน

     ในช่วงหน้าฝนน้ำในแม่น้ำโขงจะสูงขึ้นทำให้รอยพระพุทธบาทจมอยู่ใต้น้ำ พอถึงช่วงหน้าแล้งน้ำโขงลดลงก็จะโผล่พ้นน้ำเพื่อให้ศาสนิกชนไทย-ลาวได้กราบไหว้ รอยพระพุทธบาทจะเห็นได้ชัดในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน 

     รอยพระพุทธบาทเวินปลา เป็นรอยพระพุทธบาทหนึ่งเดียวในโลกที่พระพุทธเจ้าประทับรอยพระบาทบนโขดหินกลางลำน้ำโขง เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทย-ลาวให้ความเคารพนับถือมาตั้งแต่ยุคโบราณ และถูกบันทึกในตำนานพระอุรังคธาตุสมัยสร้างพระธาตุพนมรุ่นแรกเมื่อปี พ.ศ. 8 หรือกว่า 2,500 ปีมาแล้ว ครั้งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหลังตรัสรู้เดินทางมาเผยแพร่พระธรรมในชมพูทวีปลุ่มน้ำโขง ล่องมาตามลำแม่น้ำโขง ได้มีเหล่าพญานาคใต้เมืองบาดาล และพญาปลาปากคำ(ปลาตะเพียน)ที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาได้แปลงกลายนิมนต์พระองค์ลงไปแสดงธรรมใต้บาดาล และก่อนที่พระองค์จะเสด็จขึ้นมาโลกมนุษย์ เหล่าพญานาค พญาปลาปากคำได้ร้องขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์แทนพระองค์ไหว้กราบบูชา พระพุทธเจ้าจึงได้ประทับรอยพระบาทไว้บนโขดหินแห่งนี้

 

     ส่วนรอบบริเวณวัดบรรยากาศร่มรื่นจากแมกไม้ มีรูปปั้นพระพุทธเจ้าตั้งแต่ออกบวชถึงทรงตรัสรู้ ประดิษฐานใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ รวมถึงรอยพระพุทธบาทเวินปลาจำลอง...พญานาคเจ็ดเศียร...พระพุทธรูปปางนาคปรก ที่มีสาธุชนจุดธูปขอโชคลาภ และ เซียมซียักษ์ให้เสี่ยงทายดวงชะตาอีกด้วย

 

     วัดพระบาทเวินปลา ตั้งอยู่ห่างจากอำเภอเมืองนครพนมประมาณ 15 กิโลเมตร ใช้ทางหลวงหมายเลข 212 ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกันกับไปถ้ำนาคี นักท่องเที่ยวสามารถแวะสักการะรอยพระบาทก่อนไปถ้ำนาคีได้

หมู่ 1 ตำบลเวินพระบาท อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม

 

ยายเจียม ข้าวเปียกเส้น

@บ้านดอนแซ่บ

 

    ร้านอาหารเช้าพื้นถิ่นที่เลื่องชื่อ เปิดให้บริการตั้งแต่เช้าตรู่พอสายหน่อยอาหารหลายเมนูก็เริ่มทยอยหมด เป็นร้านยอดนิยมทั้งของคนในพื้นถิ่นและนักท่องเที่ยว ในทุกๆ เช้าจะมีลูกค้าแน่นขนัดเต็มร้านมีทั้งแบบนั่งทานที่ร้านและรับกลับบ้าน

     ข้าวเปียกเส้น

    หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อ ก๋วยจั๊บญวน เมนูยอดนิยมที่พลาดไม่ได้ ความพิเศษคือ เส้นก๋วยจั๊บของที่นี่จะเหนียวนุ่มกว่าร้านทั่วไป มีความหนึบเล็กน้อย ใส่หมูยอหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ซี่โครงหมูที่ต้มจนเนื้อเปื่อยนุ่ม น้ำซุปมีความเข้มข้นหวานน้ำต้มกระดูก พร้อมกับกลิ่นหอมของผักชีฝรั่งหรือผักหอมเปที่โรยหน้า ส่วนพริกป่นจะใช้เป็นพริกคั่วซึ่งจะให้กลิ่นหอมกว่าพริกป่นธรรมดา

     ปากหม้อญวน

     แป้งนุ่มบางใสห่อไส้แน่นๆ เป็นหมูสับและต้นหอมที่ผัดปรุงรสเข้าด้วยกันจนได้รสที่กลมกล่อม โรยหน้าด้วยหอมเจียวที่ทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด รสชาติเปรี้ยว หวาน เผ็ด และเค็ม

     ข้าวเกรียบปากหม้อ(พิซซ่า)

     เมนูนี้มีแป้งห่อด้วยกันถึงสองชั้น ชั้นนอกเป็นแผ่นแป้งบางกรอบมีงาดำผสมในเนื้อแป้งเมื่อย่างแป้งทำให้หอมไปด้วยกลิ่นงา ส่วนแป้งชั้นในจะเป็นแป้งแผ่นบางที่มีความเหนียวนุ่มและหนึบเล็กน้อย สอดไส้ด้านในด้วยหมูสับผัดกับต้นหอม โรยด้วยหอมเจียวและน้ำจิ้ม

ขนมเบื้องญวน

     แป้งทอดกรอบผสมไข่สีเหลืองนวลสีเหลืองที่ได้มาจากส่วนผสมคือ ผงขมิ้น สอดไส้ที่ผัดด้วยส่วนผสมหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น กุ้ง เต้าหู้ ถั่วลิสง ถั่วงอก เป็นต้น นำมาผัดปรุงรสรวมกันจนกลมกล่อม ทานคู่กับน้ำอาจาดที่มีแตงกวาซอยชิ้นเล็กๆ ถั่วลิสง และพริก

ยายเจียม ข้าวเปียกเส้น

326/1 หมู่ 2 ตำบลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม

โทร : 092-5867644

 

กล้วยกรอบนาคี - กล้วยกรอบนาคา

กล้วยกรอบนาคี - กล้วยกรอบนาคา

    กล้วยหอมอบเนยแผ่นบางกรอบสีเหลืองทอง รสชาติกลมกล่อมหอมหวานกำลังดี สไลด์กล้วยหอมพอห่ามแผ่นบางเฉียบ ได้ลองชิมคำแรกเป็นต้องติดใจแบบหยุดไม่ได้ แทบละลายในปาก หอมด้วยกลิ่นเนย กล้วยกรอบนาคี กล้วยกรอบนาคา นับเป็นของฝากยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างซื้อหาเป็นของรับประทานเล่น เป็นของขวัญของฝากยามที่ได้มาเยือนถ้ำนาคี ถ้ำนาคา ภูลังกา

จุดจำหน่าย

กล้วยกรอบนาคี ร้านคาเฟ่ อเมซอน สถานีบริการน้ำมัน ปตท. บ้านแพง

กล้วยกรอบนาคา ร้านคาเฟ่ อเมซอน สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ถ้ำนาคา

 

สายชล ขนมเทียนแก้ว

สายชล ขนมเทียนแก้ว

     ขนมทรงสามเหลี่ยมขนาดจิ๋วน่ารัก ใช้แป้งข้าวเหนียวสอดไส้ มีส่วนผสมของเนื้อหมู หอมพริกไทย ปรุงรสนำผัดรวมกันห่อด้วยใบตองนำไปนึ่งจนสุก เมื่อสุกเนื้อแป้งจะใสๆเหมือนแก้ว อร่อยนุ่มลิ้นเข้ากันดีกับไส้ผัด บรรจุในชะลอมขนาดเล็กน่ารักเป็นงานหัตกรรมจากคนในท้องถิ่น ขนมเทียนแก้วเป็นขนมโบราณในสมัยก่อนที่หาทานได้ยาก มักจะนิยมทำกันในเทศกาลงานบุญ งานมงคล หรือถวายพระสงฆ์เท่านั้น ถือเป็นขนมมงคลเพราะใช้ทำขึ้นเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า รูปร่างห่อคล้ายเจดีย์อันเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนา หมายถึงความมั่นคง บรรจุสิ่งสูงค่าอันเป็นมงคลผู้คนกราบไหว้บูชา เช่น องค์พระธาตุ ในสมัยปัจจุบันจึงได้มีแนวคิดทำขนมเทียนแก้วเพื่อจะได้สะดวกในการซื้อหานำไปใช้ทำบุญ เป็นของฝาก และหาซื้อทานได้ทั้งปี

ขนมเทียนแก้ว

คุณสายชล อุ่นศิริ ประธานกลุ่มขนมเทียนบ้านแพง
โทร 081-5742508
357/4 หมู่ที่ 5 ถนน แพงพิทักษ์ ตำบลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม

 

เจ๊ดา

ส้มปลาโด ไชยบุรี

     ความอร่อยจากภูมิปัญญาการแปรรูปอาหารที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดยใช้วัตถุดิบในพื้นถิ่น เช่น ปลา กระเทียม ใบตอง บ้านไชยบุรีมีภูมิประเทศติดกับแม่น้ำสองสีคือ แม่น้ำสงครามและแม่น้ำโขง ทำให้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยปลาแม่น้ำ จึงทำให้เกิดเมนูปลาส้มหรือส้มปลาชะโด หรือที่เรารู้จักกันคือ แหนมปลา เป็นของฝากที่ใครต่อใครต่างติดอกติดใจในความอร่อย ต้นตำรับส้มปลาชะโดอยู่ที่บ้านไชยบุรีเพียงที่เดียวในประเทศ

     เอกลักษณ์ของส้มปลาชะโดไชยบุรี คือ รสชาติที่กลมกล่อม เปรี้ยว เค็มกำลังดี ส้มปลาเนื้อแน่นสีขาวห่อด้วยใบตองสีเขียว สามารถเก็บไว้ได้นานโดยรสชาติไม่เปลี่ยน และเมื่อนำออกมารับประทานไม่ว่าจะนึ่ง...ย่าง หรือ ทอด ทานพร้อมกับพริกสด กระเทียมสด จะยิ่งเพิ่มรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีปลาส้มแบบเป็นตัวที่ทำด้วยเนื้อปลาสดจากแม่น้ำโขงอีกด้วย

เจ้ดา ส้มปลาโด

โทร : 081-9740791
วิสาหกิจชุมชนแปรรูปเชิงธุรกิจส้มปลาชะโด ไชยบุรี อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม 48120

 

สับปะรด ท่าอุเทน 

     ความสุขของการขับรถท่องเที่ยว นอกจากจะได้ตะเวนทานอาหารพื้นถิ่นของนครพนมที่เลิศรสแล้ว ระหว่างเส้นทางจากตัวเมืองนครพนมไปยังถ้ำนาคี อำเภอบ้านแพง บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านธาตุ อำเภอท่าอุเทน สองข้างทางเราจะเห็นแผงขายผลไม้สดจากสวน เช่น สับปะรด...แคนตาลูป...แตงไทย และ แตงโม โดยเฉพาะสับปะรดท่าอุเทน เป็นสินค้าประจำจังหวัด หนึ่งในของดีของจังหวัดนครพนม

     สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียมีขนาดผลค่อนข้างใหญ่ เนื้อแน่นละเอียด เปลือกบาง ตาตื้น
มีกลิ่นหอม อร่อยรสหวานฉ่ำ ได้รับความนิยมอย่างมากทำให้สับปะรดท่าอุเทนได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ G.I. จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา
สร้างความภูมิใจและสร้างรายได้ให้กับชุมชน

     สับปะรดมีคุณสมบัติเฉพาะพื้นที่ปลูกตลอดแนวชายฝั่งแม่น้ำโขงทำให้มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ จากภูมิปัญญาการเพาะปลูกของชาวบ้านทำให้มีผลผลิตจำหน่ายตลอดทั้งปี

ขอขอบคุณ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม

184/1 ถนนสุนทรวิจิตร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม 48000

โทร : 042 513 490