เที่ยว เล่น เรียนรู้ กินอยู่อย่างมีสไตล์ที่ ‘เพ ลา เพลิน’

เที่ยว เล่น เรียนรู้ กินอยู่อย่างมีสไตล์ที่ ‘เพ ลา เพลิน’

ใครจะคิดว่าอีสานจะมีอุทยานไม้ดอกที่สามารถปลูกดอกไม้เมืองหนาวอย่างทิวลิป ลิลลี่ กุหลาบ ได้เหมือนประเทศเมืองหนาว แต่ด้วยความความตั้งใจของคุณเอ๋ พรทิพย์ อัษฎาธร ที่ต้องการให้คนอีสานได้มีโอกาสชื่นชมดอกไม้เมืองหนาวโดยไม่ต้องเดินทางไปถึงต่างประเทศ จึงได้เนรมิตที่นี่ให้เป็นอุทยานไม้ดอกเพลาเพลินและแหล่งเรียนรู้รวมถึงพัฒนาทักษะเยาวชนและบุคคลทั่วไป เพื่อเติมเต็มความรู้ด้านประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของภาคอีสานให้กับเยาวชนในพื้นที่ และเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของชาวบุรีรัมย์

การเปิดตัวของอุทยานไม้ดอกเพลาเพลิน เมื่อต้นปี พ.ศ. 2556 จึงตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบดอกไม้เมืองหนาว จนกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของบุรีรัมย์ในเวลาอันรวดเร็ว ภายในบริเวณถูกจัดแต่งไว้อย่างสวยงาม บนเนื้อที่กว่า 380 ไร่ แบ่งออกเป็น 3 โซน คือ โซนอุทยานไม้ดอก โซนเกษตรสาธิต ไร่สตรอเบอร์รี่ องุ่น เสาวรส และโซนแอดเวนเจอร์ที่มีกิจกรรมและที่พักสไตล์บูติค รีสอร์ทให้เลือกอย่างครบครัน

โซนยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวคืออุทยานไม้ดอกเพลาเพลิน ซึ่งรวบรวมพันธุ์ไม้หายากมาจัดแสดงไว้ใน 6 โรงเรือน โรงเรือนแรกจัดแสดงดอกไม้เมืองหนาวตามฤดูกาล โดยมีการปรับอุณหภูมิในโรงเรือนให้เหมาะสม ช่วงที่เราไปกำลังจัดแสดงดอกอมาริลลิส (Amaryllis) หรือ ‘ว่านสี่ทิศ ฮอลแลนด์’ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีดอกใหญ่ สีสันสวยงาม เปิดให้ชมถึงเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะเริ่มจัดแสดงดอกทิวลิปที่ทุกคนรอคอยตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงต้นปี พ.ศ. 2560

โรงเรือนอื่นๆ จัดแสดงไม้ดอกแบบถาวร เริ่มที่โรงเรือน 2 เป็นเฟิร์นหลายสายพันธุ์ในคอนเซ็ปต์ ‘ป่าดึกดำบรรพ์’ โซนนี้เด็กๆ จะชอบเป็นพิเศษ เพราะมีรูปปั้นไดโนเสาร์หลายพันธุ์ โรงเรือน 3 เป็นพืชกินแมลงในคอนเซ็ปต์ ‘สีสันแห่งธรรมชาติ’ มีหม้อข้าวหม้อแกงลิงและสวนสัปปะรดสีหลายสายพันธุ์ จุดที่นักท่องเที่ยวต้องแวะเซลฟี่คือผีเสื้อที่ทำด้วยดอกไม้สีสันสวยงาม โรงเรือน 4 เป็นกล้วยไม้หายากในคอนเซ็ปต์ ‘กินรี’ มีพันธุ์ฟาร์แลนด์ รองเท้านารี แวนด้า คัทลียา หวาย กล้วยไม้ป่า โดยจำลองเป็นป่าหิมพานต์และมีตัวละครจากวรรณคดีเรื่องพระสุธน มโนราห์มาไว้ที่นี่ โรงเรือน 5 เป็นพืชทะเลทรายอย่างตะบองเพชรสายพันธุ์ต่างๆ ในคอนเซ็ปต์ ‘พีระมิด’ มีรูปปั้นฟาโรห์ สฟิงซ์ พีระมิดจำลองเข้าบรรยากาศ โรงเรือนสุดท้ายเป็นดอกหน้าวัวในคอนเซ็ปต์ ‘ศิลปะอีสานใต้’ ที่จำลองวิถีชีวิตชาวบ้านมาจัดแสดง บ้านเรือนไทย เครื่องไม้เครื่องมือการทำไร่ทำนาและการทอผ้า โดยดอกหน้าวัวจัดแสดงในลักษณะแขวนประดับ เพิ่มสีสันและลูกเล่นให้สวยงาม    

เพ ลา เพลิน ยังมีความสนุกให้เราเพลิดเพลินอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโซนแปลงเกษตรสาธิตที่ให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิถีเชิงเกษตร ได้ทดลองปลูกต้นไม้ตามฤดูกาล นอกจากนี้ยังมีเทศกาลเก็บสตรอเบอร์รี่ เก็บองุ่น ฟาร์มผักออร์แกนิค รวมไปถึงการปรุงอาหารจากวัตถุดิบในไร่และการทำขนมไทยชาววังเพื่อสืบสานความเป็นไทย รวมถึงการจัดแสดงนิทรรศการศิลปะหมุนเวียนตลอดทังปี ส่วนใครชอบแนวผจญภัยเพลาเพลินก็จัดให้ในโซนแอดเวนเจอร์ โดยจำลองสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงของโลก เช่น กำแพงเมืองจีน หอไอเฟล สโตนเฮนจ์ มาเป็นฐานกิจกรรม

โซนที่พักรับรองของเพ ลา เพลิน เป็นสไตล์บูติค รีสอร์ท มี 2 เฟส เฟสแรกเป็นธีม ‘The Journey’แบ่งเป็นโซนเอเชีย 10 ห้อง คือ ไทย ลาว เมียนม่า กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย เกาหลี จีน ญี่ปุ่น อินเดีย โซนยุโรป 10 ห้อง ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน สวีเดน เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก กรีซ เยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ ให้นักเดินทางได้เลือกพักตามอัธยาศัย เฟสที่ 2 เป็นบูติก รีสอร์ท ขนาด 55 ห้อง ในธีม ‘The Naturalist’  นำเรื่องราวของธรรมชาติแต่ละประเทศมาตกแต่งห้อง เช่น นำดอกไม้และพันธุ์ไม้ต่างๆ มาเพ้นท์ลงบนผนังตามชื่อห้อง เช่น ห้องคาเมลเลีย ห้องสยาม ทิวลิป เป็นต้น ทำให้ทุกห้องพักมีเสน่ห์ไม่ซ้ำกัน สำหรับคนรักดอกไม้อย่างเรา แค่ได้นอนท่ามกลางดอกไม้แสนหวาน ก็ทำให้นอนหลับฝันดีแล้วละ

บรรยากาศภายทั่วไปในเพ ลา เพลิน บูติกแอนด์รีสอร์ท ตกแต่งในสไตล์ลอฟต์ โปร่ง สบาย เน้นความเป็นธรรมชาติเป็นหลัก โดยนำของแต่งบ้านสไตล์เรียบหรูมาผสานกับเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบอินดัสเทรียลอย่างมีสไตล์ ผนังสีขาวตกแต่งด้วยงาน Flower Art ผสมกับการเพ้นท์ภาพลายดอกไม้สีสันสดใส ใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูปคุณจะเพลินกับมุมต่างๆ ที่มีให้เลือกไม่ซ้ำกันเลย ไม่ว่าจะเป็นล็อบบี้ ห้องอาหาร โถงระเบียงทางเดิน มุมนั่งเล่น ไม่เว้นแม้แต่ห้องน้ำที่ตกแต่งในคอนเซ็ปต์เดียวกัน

หลังจากได้สัมผัสกับที่นี่แล้ว เราไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอุทยานดอกไม้เพ ลา เพลิน จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งใหม่ที่นักท่องเที่ยวต้องแวะเช็คอินทุกครั้งที่มาเยือนบุรีรัมย์ สอบถามรายละเอียดการเข้าชมและจองห้องพักได้ที่ โทร 08 7799 4936, 08 7798 1039, 08 7797 6425