“วิธีคิดของผมมัน...บ้า!!”

 

 

“บิสสิเนส โมเดลที่ไม่มีใครเหมือน ผมคิดไม่ค่อยเหมือนใคร เป็นการทำตลาดแบบ Mass ที่สุด ยอมขายขาดทุนเพื่อให้ลูกค้าที่ไม่เคยสัมผัสได้เข้ามา เป็นเจ้าแรกที่ขายแพคเกจถูกมากๆ เหมือนคอนเซ็ปต์บริษัท “จ้างคนไปเที่ยว ที่เดียวในโลก” นี่คือแนวคิดในการทำธุรกิจของผู้บริหารหนุ่มชาวกระบี่เต็มร้อย โกเล็ก - ประสิทธิ เจียวก๊ก ประธานกรรมการบริษัทและในเครือ บริษัท มัณดาวีต์ ทัวร์ จำกัด และมัณดาวีต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่สวมหัวใจนักสู้ ลุยแบบลูกทุ่ง กล้าได้กล้าเสีย


และวิธีคิดที่แตกต่างทำให้ธุรกิจโรงแรม มัณดาวีต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ราคาร่วม 800 ล้านบาท ที่อำเภออ่าวนาง กระบี่ซึ่งซวนเซแทบล้มพับจากความอ่อนด้อยด้านธุรกิจท่องเที่ยวในช่วงขวบปีแรก กลับพลิกฟื้นเติบโตแข็งแรงจากมุมมองที่แปลกต่าง เล็งเห็นโอกาสจากวิกฤต เรียนรู้ที่จะก้าวข้ามความผิดพลาดและตั้งเป้าที่จะเดินตามฝัน อย่างที่น้อยคนนักจะคิดและทำได้อย่างเขา

...a world connect มีโอกาสได้พบกับ โกเล็ก ในช่วงบ่ายวันหนึ่งที่รีสอร์ทของเขาเองกลางเมืองกระบี่ นอกจากซักถามถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ แล้วยังมีอีกหลายมุมส่วนตัวที่น่าสนใจ

“ผมเป็นเด็กเกเร หนีออกจากบ้านตั้งแต่ ม. 2 เข้ากรุงเทพฯ ก็ทำทุกอย่าง ไปเป็นเด็กเสิร์ฟก็เคยมาแล้ว หาเงินเรียนเอง โตขึ้นมา ตอนเรียนก็ตีกับเด็กโรงเรียนอื่น เหมือนวัยรุ่นสมัยนั้น เรียนเขียนแบบ จบก็ทำงาน ทำก่อสร้าง แล้วเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ ผ่านอะไรมาเยอะ ถ้าเล่านานนนน” โกเล็ก ทำเสียงลากยาวพลางหัวเราะเสียงดัง

...ถึงกระนั้น เขาก็ถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ชีวิตที่โชกโชนนานพอสมควรก่อนจะปิดท้ายด้วยคำพูดที่ว่า ภรรยาต้องคอยปราม เพราะพูดเยอะ

โกเล็ก เล่าให้ฟังว่า “... กระบี่ ดูแล้วตามภูเก็ตอยู่อีกมาก ถึงแม้ว่าสิบปีมานี้จะเริ่มพัฒนาขึ้นมาแล้วก็ตาม แต่ปัญหาหลักๆ จะเป็นเรื่องของกระบวนการจัดการด้านสาธารณูปโภค ถนนหนทาง การเก็บขยะ ซึ่งถ้าทำได้จะทำให้กระบี่มีความแข็งแกร่งขึ้น ทางหน่วยงานของรัฐที่ตั้งขึ้นมา ควรเข้ามาดูแล ไม่ใช่ฝนตก ต้นไม้ไหว ไฟก็ดับแล้ว บางแห่งน้ำประปายังเข้าไม่ถึงด้วยซ้ำ

ภูเก็ตมีโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่ง แต่กระบี่มีเพียงแห่งเดียว การบริการต่างๆ ยังน้อย หากเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามา จากที่มีข้อมูลอยู่ที่ราว 2 ล้านคน เป็นต่างชาติ 80% ส่วนใหญ่เป็น จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย คนไทยมาเที่ยวเพียง 20%

แต่ละปีการท่องเที่ยวโตประมาณ 15-30% อยู่ที่สถานการณ์ในปัจจุบัน ความน่ากลัวคือ การท่องเที่ยวอ่อนไหวง่าย กระทบกระเทือนง่าย ผล กระทบจากการเมือง จากคำเตือนในแต่ละประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวแถบสแกนดิเนเวียหายไป

...มัณดาวีต์ รีสอร์ท เพิ่งเริ่มเปิดบริการเมื่อ 3–4 ปีก่อน โดยสร้างอาคารครั้งแรกตั้งใจจะทำคอนโดฯ จนตัดสินใจเปลี่ยนมาทำเป็นโรงแรมจึงสร้างพูลวิลล่าขึ้นมา อีก 15 หลัง บนเนื้อที่ทั้งหมด 30 ไร่ ลงทุนทั้งหมด 800 ล้านบาท ปีแรกค่อนข้างประสบกับปัญหาอย่างมาก

เพราะความที่ไม่เคยทำธุรกิจท่องเที่ยวมาก่อน อีกทั้งโรงแรมอยู่อ่าวนางแต่ไกลออกมาและไม่ติดหาด แต่เราสู้และมองตลาดที่แตกต่าง เมื่อไม่มีคนมา ผมก็ไปหา ไปออกบูธ ไปโรดโชว์ เพื่อดึงคนเข้ามาเที่ยวโดยการลดราคาเรียกว่าขายขาดทุนกันไปเลย
ความคิดคือ ทำอย่างไรก็ได้ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาก่อน เข้ามาสัมผัส เมื่อมาแล้วก็จะเกิดการจับจ่ายใช้สอยเอง ผมตั้งบริษัททัวร์ขึ้นมาแล้วแพคเกจ ซึ่งให้บริการ ทั้งเรื่องเที่ยว ค่าเรือ ค่าอาหารทุกมื้อ รวมไวน์ และสปา

ด้วยสนนราคาค่าแพคเกจที่ถูกมากๆ ทำให้เขาถูกตำหนิจากโรงแรมอื่นๆ ทั่วกระบี่ ที่ต่างมองว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการตัดราคาหรือเป็นการทำให้ธุรกิจห้องพักในกระบี่เสียราคา แต่เขายังคงยืนยันว่า สิ่งที่เขาทำคือเพื่อต้องการให้นักท่องเที่ยวในตลาดล่าง ซึ่งต้องการเดินทางแต่ไม่มีความรู้ในการท่องเที่ยว ได้มีโอกาสเข้ามาใช้บริการ เพราะตลาดการท่องเที่ยวไม่เหมือนกับอุตสาหกรรมด้านอื่นๆ ที่ต้องมีการลงทุน แต่นี่นักท่องเที่ยวกำเงินเพื่อมาจ่ายอยู่แล้ว

หลังจากการเดินทางขึ้นเหนือ ล่องใต้ อีสาน ออก ตก จนสามารถทำให้ลูกค้าคนไทย หรือ ลูกค้า Mass ที่เขาคาดหวังติดตลาดด้วยการเติบโตแบบก้าวกระโดด ปริมาณลูกค้า อยู่ที่ 80-90% แล้ว สิ่งหนึ่งที่เขาเล็งถัดมาเพื่อให้ธุรกิจเติบโต คือ การรุกออกสู่ตลาดต่างประเทศ

“ในส่วนของการเปิดการค้าเสรีที่กำลังจะมาถึง เราต้องมองไปในอนาคตและตื่นตัวทำธุรกิจสนองตอบอย่างรวดเร็ว ผมถือว่าเป็นเรื่องที่ความสำคัญมาก เพื่อเป็นการดึงลูกค้าเข้ามาเที่ยวกระบี่ จึงจัดแคมเปญ บัตรเดียวเที่ยวทั่วไทย ที่ผ่านมาเราเดินทางไปติดต่อกับประเทศต่างๆ ทั้ง อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน จีน ดึงประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเที่ยว ไปโรดโชว์ ไปออกบูธ

...บัตรเดียวเที่ยวทั่วไทย เป็นบัตรแรกที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ผมจดลิขสิทธิ์ไว้แล้ว ตัวแทนจำหน่ายมี 4 แบบ คือ ร้านสะดวกซื้อ เคาน์เตอร์เซอร์วิสต่างๆ ไดเร็คเซลขายขาดและมีเดีย ขายแบบเอเยนซี่ ยกล็อต หรือบริษัทที่สนใจรับไปจำหน่ายก็ได้ จะเริ่มวางจำหน่ายเดือนมิถุนายนปีนี้”

โกเล็ก เล่าถึงที่มาของไอเดียสุดล้ำนี้ว่า “ตอนทำทัวร์ ไปตามจังหวัดต่างๆ ในเมืองไทย เห็นว่า ยังมีลูกค้าคนไทยอีกจำนวนมากที่อยากเที่ยว แต่การเข้าถึงยังไม่เพียงพอ ข้อมูลด้านท่องเที่ยว ส่วนใหญ่มาจากอินเตอร์เน็ต มาจากการถามเพื่อนหรือคนสนิท ซึ่งบางครั้งข้อมูลก็ไม่ครบถ้วนและการไปหาเคาน์เตอร์ทัวร์ ซึ่งเมื่อจองทัวร์เพียง 2–3 คนทางบริษัทก็ไม่จัดให้ หรือจัดให้เขาก็ต้องจ่ายเงินมากเพื่อให้คุ้มทุน ทำให้เกิดอุปสรรคในการท่องเที่ยว เราจึงพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ทุกวันนี้พบว่า 60-80% มีเงินแต่ไม่มีบัตรเครดิต

สำหรับบัตรแพคเกจ “บัตรเดียว เที่ยวทั่วไทย” เริ่มจองในราคา 499 บาท มีแพคเกจให้เลือก 22 จังหวัด ในแพคเกจนั้นจะมีที่พักระดับ 3 ดาวซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับเรา มีขนาดเกิน 70 ห้องขึ้นไป พร้อมอาหาร ทุกมื้อและค่าเข้าชมสถานที่เที่ยวต่างๆ ค่าเรือ ค่าสปา ค่าไวน์ แต่ไม่รวมตั๋วเดินทาง

ด้านในของบัตรจะมีคู่มือบอกวิธีใช้และมีตัวเลขรหัสอยู่ เมื่อต้องการเดินทางไปเที่ยวตามจังหวัดที่จองเอาไว้เมื่อไหร่ ก็ขูดรหัสที่บัตร แล้วบอกรหัสไปที่คอลเซนเตอร์ แล้วจ่ายเงินเพิ่มตามจำนวนราคาเต็ม ซึ่งบอกเอาไว้ในแพคเกจ

ราคา 499 บาทเป็นราคาจองหรือราคามัดจำ มีกำหนดการใช้ภายในระยะเวลา 2 ปี ทางบริษัทจะวางจำหน่ายทั้งหมด 1 ล้านใบภายใน 12 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 57 ถึงพฤษภาคมปี 58 เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังเตรียมทำเลานจ์เหมือนกับสายการบิน เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในสนามบินฯแต่จะอยู่ใกล้กับสนามบิน เพื่อให้ลูกค้าได้มารอระหว่างการเดินทาง ลูกค้าสามารถเข้ามาทานกาแฟ พักผ่อน เล่นอินเตอร์เน็ตได้ นอกจากในไทยแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างติดต่อกับร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆ ในต่างประเทศ เพื่อจะวางจำหน่ายแพคเกจนี้ราวเดือนสิงหาคมปีนี้เช่นกัน”

...ไอเดียการทำธุรกิจของเขายังไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้ เขาเริ่มมองไกลไปถึงการเข้าตลาดหุ้นภายใน 3 ปี ซึ่งหากทำได้ บริษัท มัณดาวีต์ ทัวร์ จะเป็นบริษัททัวร์บริษัทแรกที่เข้าตลาดหุ้น นอกจากนี้ยังมีแผนจะไปซื้อกิจการโรงแรมที่มีปัญหารวมถึงอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ สำหรับในต่างประเทศเพื่อซัพพอร์ตนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการเดินทางไปเที่ยว แต่ในช่วงแรกจะดึงลูกค้าเข้ามาที่จังหวัดกระบี่ก่อน

โกเล็ก หัวเราะเสียงดังเมื่อเล่าถึงแนวความคิดด้านธุรกิจ “...บิสสิเนส โมเดลนี้ เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ผมเป็นคนที่คิดไม่ค่อยเหมือนใคร เป็นการทำตลาดแบบแมสที่สุด ยอมขายขาดทุนเพื่อให้ลูกค้าที่ไม่เคยสัมผัสได้เข้ามาสัมผัส เป็นเจ้าแรกที่ขายแพคเกจถูกมากๆ ทำให้ธุรกิจเราโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเราใช้ One price One policy วิธีคิดผมมันบ้ากว่าเพื่อน”

ก่อนหน้านี้มีสมาคมฯมีนักธุรกิจกระบี่บอกว่า ผมทำให้ที่นี่เสียราคาเพราะลดราคาห้องลงมาต่ำมาก แต่เพราะเราไม่ได้คิดแค่นั้น อย่างน้อยต้องดึงให้นักท่องเที่ยวมาก่อน เมื่อเขาสามารถมาได้ในราคานี้ วันหนึ่งก็ต้องเกิดการบอกต่อ”

...ไม่เพียงเท่านี้ ความร่ำรวยฝันของชายอายุเพียงสามสิบกว่าๆ คนนี้ยังมีเรื่องราวที่ น่าตื่นเต้นอีกมากมาย คงต้องคอยติดตามกันว่าเขาจะส่งความคิดใส่แพคเกจอะไรมาเขย่าวงการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่กันอีกต่อไป