นับจากนี้....ปลาวาฬ ....จะอิสระ
ภายในห้องรับแขกที่แลดูกว้างขวางโปร่งโล่งของบ้านพัก ณ ศรีพันวา จังหวัดภูเก็ต กองบก. a world connect มีโอกาสได้เข้าร่วมการสนทนาวิสาสะกันในแบบสบายๆ กับ “ปลาวาฬ” ที่เปิดบ้านรอรับในช่วงบ่ายของวันกลางฤดูร้อน
“ธุรกิจการท่องเที่ยวเมืองภูเก็ตถือว่าดีมากๆ อาจจะถือว่าเป็นปีที่ดีที่สุดในรอบห้าปีด้วยซ้ำ จริงๆ ต้องบอกว่า ดีขึ้นทุกปี การท่องเที่ยวคำว่าโลซีซั่นไม่มีแล้ว ภูเก็ตเป็นไฮซีซั่นตลอด รถติดตลอด” บทสนทนาเริ่มต้นขึ้นเมื่อเราถามถึงบรรยากาศการท่องเที่ยวของภูเก็ตในปัจจุบัน
“...ก่อนสึนามิคนยังไม่รู้จักภูเก็ตเท่านี้ แต่หลังจาก วันนั้นคนรู้จักมากขึ้น เมื่อก่อนก็ไม่ได้เงียบ แต่การ ท่องเที่ยวจะเป็นฤดูกาล คริสมาสต์ นิวเยียร์ แต่ด้วย การเดินทางที่สะดวกสบาย สามารถบินมาง่าย มีไฟลท์ไดเรค มาเยอะ ต่างจากสมุยซึ่งต้องบินต่อจากกรุงเทพฯ ส่วน นักท่องเที่ยวก็มีหลากหลาย ทั้งรัสเซีย อิสราเอล เกาหลี ถ้าดูไฟลท์เที่ยวบินตอนกลางคืนจะเห็นว่ามีแต่คนจีนมาลง
ในช่วงแรก คนเกาหลีมาเที่ยวภูเก็ตมากันแบบฮันนีมูน มากับกรุ๊ปทัวร์ เมื่อ 8–9 ปีก่อน แต่ตอนนี้เดินทางมาเอง ซึ่งเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียของภูเก็ต คนจีนมาเยอะ ตรุษจีนล้น
ภูเก็ตเป็นเมืองที่จ่ายภาษีเป็นที่สองรองจากกรุงเทพฯ แต่ได้งบน้อยกว่าเชียงใหม่ การได้งบน้อยทำให้สาธารณูปโภคต่างๆ ไม่พร้อม เชียงใหม่มีครบทุกอย่าง ถนนเขาเรียบหยั่งกับก้นเบบี๊ ถนนมีวงแหวนรอบนอก-รอบใน ขณะที่ภูเก็ตถนนเส้นเดียวมาตลอด
Tourism ของประเทศไทยเป็นเหมือนกับจีดีพี อันดับที่ 2 ของประเทศ ภูเก็ตมีหาดสวย การบริการดี แต่ข้อเสียคือ ถ้าโครงสร้างไม่พร้อมจะตายเร็ว คือสิ่งที่ผมกลัว เกาะจะโทรมเร็ว ขยะ น้ำไม่พอ ถนนหนทางก็ไม่พอ ทุกอย่างไม่พอหมด ต้องให้ทางองค์กรอะไรมาช่วยหน่อย เพราะภาษีเราก็จ่าย”
...และอีกหลายคอมเม้นท์ที่พร่างพรู
...เขาเปลี่ยนอิริยาบถเป็นเอนกายเหยียดยาว เมื่อตัดสลับมาเล่าถึงความเป็นศรีพันวาบ้าง เพราะหากจะพูดถึงศรีพันวาในวันนี้ นอกจากจะเป็นที่ชื่นชมจากนักท่องเที่ยวถึงทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้เชิดหน้าชูตาคนไทยก็เห็นจะเป็นความที่เป็นแบรนด์ไทย
“...ศรีพันวาเป็นแบรนด์ของคนไทย ที่พักเราเต็มเกือบตลอดทั้งปี ศรีพันวาเปิดมาสิบปีแล้ว สิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวนึกถึงศรีพันวา อันดับแรกคือเป็นที่ที่สวยงามมากๆ และก็เป็นแบรนด์คนไทย รวมถึงด้านเซอร์วิส
ในอนาคตกำลังเตรียมสร้างห้องเพิ่มเติม
บริเวณสวนบนเนื้อที่ราว 6-7 ไร่ เป็นตึกสองตึก ทำเป็นห้องสวีท 21 หลังมีสระน้ำเหมือนพูลสวีท มีเพนท์เฮ้าส์เป็นห้องดับเบิล
และอีกสองปีข้างหน้ามีแพลนว่าจะทำอีกสองโรงแรม ที่พังงา ผมพังงาว่า เป็น นอร์ธ ภูเก็ต ข้ามสะพานไปก็ถึงเลย สร้างคอนโดฯ เป็นพูลสวีท และพูลวิลล่า บริหารแบบโรงแรม ไม่ได้ใช้ชื่อ ศรีพันวา แต่บริหารงานโดยศรีพันวา และก็มีที่ชะอำร่วมกับเครือสหพัฒน์ฯ ที่ให้ศรีพันวาบริหาร”
...และถ้าไม่ถามถึงการไปลงทุนโปรเจ็กต์ใหม่ๆ เปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศก็ใช่ที่
“วันก่อนไปดูที่จีน เป็นโปรเจ็กต์ของคนคุนหมิง มีการวางเงินเรียบร้อยแต่ทางเขามีปัญหาตรงการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่นโยบายเปลี่ยน ก็เลยยังไม่จบ ซึ่งผมมองว่าถ้ามีโอกาสผมก็อยากไปเปิดตลาด
ตอนนี้คนจีนเข้ามาเยอะ เราก็ไปรุกตลาดจีนบ้าง คนจีนที่เข้ามาเที่ยวเมืองไทยมีทุกเกรด เพราะประเทศเขาส่งเสริมการท่องเที่ยว
เมื่อก่อนพวกอิตาเลียนจะไม่ชอบคนจีน แต่ตอนนี้นิวยอร์คมีแต่คนจีน ทุกคนต้องไนซ์กับคนจีน ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ จีนต้องบริการยุโรป เดี๋ยวนี้กลับกันโลกมันเปลี่ยนไปเยอะ”
ในส่วนของเมืองไทย นอกเหนือจากความงดงามทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และประเพณีแล้วสิ่งสำคัญคือ หัวใจด้านการบริการของคนไทย ต่างเป็นที่ยอมรับในสังคมโลกและเป็นที่กล่าวขวัญถึงเสมอ ซึ่งผู้บริหารศรีพันวากล่าวด้วยน้ำเสียงชื่นชมว่า “ด้าน Hospitality ถือว่าสำคัญมาก สำหรับเมืองไทยเป็นประเทศที่มี Hospitality ที่ดีที่สุด การดูแล การต้อนรับ การใส่ใจ การให้ความอบอุ่นกับแขก มีหัวใจของการให้ ซึ่งสำคัญมาก
คนไทยน่ารักสุดยอดแล้ว อย่างผมไปร้านก๋วยเตี๋ยวเป็นลูกค้าประจำ เขาก็เอากระดูกมาให้เพิ่ม คนไทยเป็นคนที่ให้ เป็นคนที่ใจดี เพียงแต่ด้านการบริหารจัดการยังไม่เนี้ยบ ฝรั่งจะทำงานแบบมีระบบมากกว่าคนไทย ซึ่งยังเป็นแบบชิลล์ๆ”
...เสียงเด็กน้อยจากสระว่ายน้ำด้านหน้าบ้านพัก เล็ดลอดให้ได้ยินเป็นระยะๆ เบบี๊วัยสองขวบของ คุณพ่อปลาวาฬ กำลังตีน้ำจ๋อมแจ๋มนั่นเอง ขณะที่ ศรีภรรยาก็แหวกว่ายวนเวียนเฝ้าดูแลไม่ห่างกาย หลังจากตะโกนทายทักกับเบบี๊สักพัก การสนทนาจึงเริ่มต่อ
เห็นเอ่ยถึงการบริหารงานของคนไทย แล้ว
การบริหารงานของคุณพ่อเป็นอย่างไร? เราโยนคำถาม
“ผมอยู่เมืองนอกมาหลายประเทศ ได้รู้จักวัฒนธรรมหลายวัฒนธรรม อังกฤษต้องเนี้ยบ คนอเมริกามีเงินก็ต้องโชว์พูดโฉ่งฉ่าง อิตาลีเป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ โรมัน ทั้งเนี้ยบและก็ทำอะไรต้องทำให้ดีสวิตเซอร์แลนด์ เวลาสำคัญต้องเป๊ะ ก็เอาวัฒนธรรมอย่างนั้นมารวมหมด
ผมก็เลยเป็นคนโหด เพราะทำงานสไตล์แบบพูดไม่ค่อยเกรงใจ ถ้ามัวแต่เกรงใจ ลูกน้องสามร้อยกว่าไม่ไหวแต่เราต้องมีเหตุผล เพิ่งมีเด็กคนนึงออกไป ซึ่งผมชอบเขานะ แต่มีอะไรเขาบอกต้องคุยกับคุณวาฬคนเดียว ผมบอกคุณคิดผิด ผมอ่ะรักคุณมาก คุณทำงานดีมากๆ แต่ทำไมทีมงานรอบตัวถึงไม่อยากทำงานกับคุณ คุณต้องดูข้อนี้ก่อน ผมก็บอกว่าคุณลองเปลี่ยนตัวเองได้มั๊ย ถ้าคุณไม่เปลี่ยนก็ช่วยไม่ได้
จริงๆ แล้วผมเป็นคนขี้เกียจจะตาย ปีสองปีนี้ตั้งแต่มีลูก ผมใช้ลูกเป็นข้ออ้างที่จะไม่ทำงานตลอด” ผู้บริหารหนุ่มหัวเราะชอบใจ พลางเล่าต่อว่า “...ชีวิตเมื่อก่อนผมจะเดินทางเป็นกลุ่มใหญ่ เดี๋ยวนี้เริ่มไปอยู่สงบๆ เพิ่งไปบาหลีมาคนเดียว เพราะชีวิตผมล้อมรอบไปด้วยผู้คนตลอดเวลา สองปีที่ผ่านมาอยู่กับแฟนอยู่กับลูกเยอะมาก จนตอนนี้เขารู้เรื่องแล้ว จึงเริ่มเดินทางอีกครั้ง
ปีนี้ผมเดินทางคนเดียวบ่อย ผมมีสิทธิทำได้แล้วเพราะผมมีเงินของตัวเอง เป็นหัวหน้าตัวเอง ไม่มีใครเป็นหัวหน้าผมนอกจากพ่อ อยากทำอะไรก็ทำได้ ผมเริ่มเป็นคนเห็นแก่ตัวมากขึ้น เห็นแก่ตัวคือทำตามในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ
รู้สึกดีขึ้น เมื่อก่อนผมทำอะไรจะคิดถึงคนอื่นตลอด คิดถึงทีมงาน คิดถึงครอบครัว แล้วผมก็ลืมนึกถึงตัวเอง
ในช่วงเปิดศรีพันวาแรกๆ ต้องเข้าครัวไปล้างจานเอง แต่ตอนนี้เลยช่วงเวลานั้นไปแล้ว เจอแขกก็เซย์ ฮัลโหล งานง่ายขึ้น ทุกอย่างดีขึ้น แต่ตอนนี้ก็เริ่มนึกถึงกลิ่นดิน กลิ่นเหล็กแล้ว เพราะจะเริ่มก่อสร้างที่ใหม่ ซึ่งเราก็ต้องดูแลและเตรียมพร้อมที่จะลุยที่ใหม่
...การทำธุรกิจโรงแรม ความยากอยู่ที่รายละเอียดในการบริหารคน เจอสิ่งที่ไม่ควรเป็นตลอด ถ้าช่วงก่อสร้างเจอผู้รับเหมาไม่ดีก็แย่ ผมมีเรื่องกับผู้รับเหมาตลอด เกือบชกเกือบต่อยกันก็มี เพราะมาตรฐานผมค่อนข้างสูง ผมจะเป็นคนเนี้ยบมาก
ผมไม่ใช่คนขี้โมโห แต่ถ้าเป็นเรื่องซ้ำๆ ผมจะโมโห คนเข้าหาผมไม่ยาก เข้าหาง่ายบางทีเข้าหาง่ายเกินไป โทรตลอดเวลาตั้งแต่แม่บ้าน คนสวน เด็กล้างจาน ลูกน้องผมถือว่าสำคัญเท่ากับลูกค้า เพราะถ้าไม่มีลูกน้องผมก็ไม่รอด ถือว่าสำคัญทีเดียวสำหรับโครงการ”
ก่อนจบการสนทนา ทีมงานแอบถามถึงความเห็นส่วนตัวเรื่องการเมือง ซึ่งนั่นทำให้ “ปลาวาฬ” ขยับตัวจากเอนกายเอกเขนกเป็นลุกขึ้นนั่งกล่าวอย่างเข้มข้น
“ประเทศเราต้องเปลี่ยนใหม่ คนไทยระดับบริหารเขาไม่ถึง ฉลาดในการโกงกินแต่ไม่ฉลาดในการพัฒนาประเทศและพัฒนาสังคมให้ประเทศดีขึ้น เห็นแก่ตัว เอาเงินไปเก็บไว้เอง ต้องเปิดโครงการเพื่อที่จะได้ซื้อรถสปอร์ตให้ลูกชายขับ ผมเห็นแล้ว ...เออ...เข้าใจว่าคอรัปชั่นมันมีบ้าง มีทุกประเทศ แต่สำหรับประเทศไทยผมเห็นแล้วน่ารังเกียจมาก...”
อุ๊บส์...
สวัสดี...